สงกรานต์นี้ที่แหลมนาว จังหวัดระนอง
       สวัสดีครับคราวนี้ถึคิววันสงกรานต์แล้วนะไปเที่ยวกันอีกแล้วหนุดตั้ง4-5วันเวลามีมากต้องหาที่ไปหน่อย
 ความต้องการของเราน่ะหรือก็คือต้องเล่นน้ำและตกปลาเป็นหลักทีแรกว่าจะไปเขื่อนรัชประภา ที่เขาเรียกว่ากุ้ยหลินเมืองไทย แต่ไม่ดีกว่า ติดอยุ่ที่เขื่อนนั่นหลายวัน ไม่ดี ฟิก มันเลยแนะนำไปที่ แหลมนาวซิ ที่นั่น มีทุกอย่าง
ที่เราต้องการ จึงได้รวมตัวกันได้ 9 คน มี หมัด รอน เฟา หมัดนิ ฟิก รุก กีม ฟีน และก็ อัสมี่ ก่อนไปเพื่อนที่ทำ
งานถามไปเที่ยวไหน ผมบอกว่า ไป ระนอง จะไปเป็นชาวเล ดู แล้วลายคน คงไม่เชื่อกัน .... และแล้วกรุ้ปทัวร์
ก็เริ่มเดินทางรถฟีน 1 คัน รถ ฟิก อีก 1 คัน เดิน ทาง เวลา 02.30 น. ของวันศุกร์ ที่ 13 เมษายน 2550
      เราไปถึงที่แหลมนาว จังหวัดระนองก็เวลาประมาณ 11.00 มั้ง ไม่แน่ใจ ไม่ค่อยได้ดูเวลาหลับตลอดทางเลย
ให้ ฟีนมันขับรถให้ ไอ้มี่ มันนั่งเป้นเพื่อน สัวนเรา หลับ ไปถึงที่นั่น โดย มี เส็ง รู้จักกันมานาน กับ ฟิก และ ฟีน อ่อ เรา มาหลายมีแล้วที่นี่ ผมมา ก็ 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่ 3 เมื่อไปถึง คนที่นั่นก็ ดีใจนะ มีคนมาเยี่ยมเยียนมาเที่ยว บ้านเขา พอไปถึง เราก็ พักผ่อนกันตามสบายนอนเอาแรงกันก่อน ที่นั่น เขาบอก ช่วงนี้ฝนตก ตอนเย็นทุกวัน ก็เป็นจริงอย่างเขาว่า ฝนตกสักพักก็หาย ก็นั่งคุยกับคนที่นั่นไป เรื่อยๆ นั่งสูบบารากู่ไป คุยไป อากาศดี ลมก็ดี สบายๆ ที่นั่นไฟฟ้าเข้าถึงนะ การไฟฟ้า เขาเอาแผงโซล่าเซลมาให้ มีไฟฟ้าใช้กันทุกหลังคาบ้านเรือน เยรายมเลยการไฟฟ้า เมื่อถึงเวลากินข้าว ที่นั่น ต้องบอกก่อนเรา อยู่ กัน แบบว่า เขาทำอะไรเราทำด้วยเขากินอะไรเราก็กินด้วยเรียกว่า แบบ home stay ดีกว่า แต่อาหารค่อนข้างสมบูรณ์นะ หลักก็ก็มี ปลา ปู ปลาหมึก ที่เยอะกว่าทีอื่นก็ คงเป็น กุ้งมังกร หละมั้ง ผมว่ามันเยอะนะที่นั่น
          เรื่มจากตอนเช้าอันสดใส เสียงนกร้อง ไก่ก็ ร้อง ห่านก็มี ร้อง มัน จริงๆ (ผมชอบนะ) แต่ก็มีเรื่องประหลาด ดูไปดูมา เจอ ไก่ตัวผู้วิ่งเข้าไปปี้เป็ดตัวเมีย มันทำอย่างนี้กันทุกวันเลยนะนั่น ... เราเตรียมตัวเดินทาง เช้าแรก เรือ 2 ลำ แบ่งทีมกันไป มีเรือชอง เส็ง กับเรือของ หลง เขาบอกจะพาไป กู้ลอบ ปู กับลอบ ปลาหมึก อ่ะ... ไม่เคยทำอย่างนี้เลยนะ ผมก็ไป ก่อนออกไป บนเรือของเส็งมี ปลาตัวนึง มันใหญ่มาก สำหรับผม ปลากระเบนนก มันติด อวนมาเมื่อเช้านี้ ตัวมันมีปีก ถึงเรียกว่านก กว้าง สัก 1.20 เมตร ได้ มั้ง แต่ตายซะแล้ว เฟามันเลย อุ้มมาถ่ายรูป เส็ง มันบอก ระวัง ที่ ตูดของมัน มี หนาม เขาเรียกว่า หนามมั้ง แบบที่ สตีฟเออวิน โดน แทงแล้วตายน่ะ เส็งเข้ามาหักทิ้งออกไป ลักษณะหนาม ยาวสักประมาณ 3 นิ้วได้ มี 3 อัน ใครดดนไป สงสัย ตายแน่ หลังจากนั้น เรืออกก็ออกเดินทางไป วิ่งไปจากแหลมนาว สัก 30 นาทีได้ มั้ง แดดกำลังร้อนแรงเลยนะ แล้วก็ไปถึง จุดหมาย มันจะมี สัญลักษณ์อยู่เป็น ธงติดไม้ ทำเป็นทุ่นไว้ วันแรก ผมนั่งเรือของหลง หลงเลย บอกลองยกลอบ ขึ้นมา ผลเลยลองดู ผมว่าผมใช้พลังทั้งงหมดนะ ลาก มัน ลาก มัน สรุป ไม่ ขึ้น แถมไอ้ลอบหมึก นี่ มันจะลากผมลงทะเล อีก หนักมาก โคตร หนัก ขยาด ผม 2 คน กับ หมัด นิ ยังไม่ ขยับเลย หลงเลย จอดเรือ และลากให้ดู สุดยอด แป้บเดียว ลอบขึ้นมาบนเรือ แต่ ว่างเปล่า ลอบแรก ไม่มีไรในนั้น เฮ้อออ เราก็บ่ายเรือไปลอบ ต่อไป ลอบแล้ว ลอบเล่า ก็ยังไม่มี ผมว่า หลง เขาดึง ขึ้นมา สัก 10 ลอบได้ มั้ง ได้หมึกมา ไม่ถึง 10 ตัว นะผมว่า สำหรับเรือลำผมน่ะ หลง บอกว่า มันไม่แน่นอน บางวันก็ได้มาก บางวันก็ไม่มี เฮ้อออ ทีหลังเวลา ซื้อปลาหมึก อย่าไปต่อราคาเขาเข้าใจไหม มันเหนื่อยนะ กว่าจะจับได้แต่ละตัวน่ะ วันนั้นแทบแย่เหมือนกัน อากาศมันร้อนน่ะอย่างว่า เรากลับมาบ้าน เรือ 2 ลำได้หมึกมาก็ไม่มากเท่าไหร่ มีปู นิดหน่อย กลับมากินข้าวกัน แล้วก็ ออกไปอีก

           เมื่อ เริ่มเดินทางเราก็แบ่งกลุ่มเป็น 2 ลำ เรือของเส็ง กับ เรือของ หลง ผมนั้นั่งเรือของหลงไป ต่างคนต่างแยกกันไป ตกปลา ก็ ไม่ไกลกันเท่าไหร่นักหรอก มองเห้นกันลิบๆ เรือ ลำที่ผมไปนั้น ไปตกแถวๆ โขดหินน่ะ ขึ้นอยู่ไม่ห่างจากเกาะค้างคาวเท่าไหร่ อีกลำนึงเขาไปตกปลาที่เกาะค้างคาวกัน ไปถึงก็ แดดกำลังดี คลื่นลมเป็นใจเหมาะแก่การตกปลา เลย ไต๋หลงเขาว่างั้นเหยื่อที่เตรียมไปก็มีไม่มาก แบ่งกับเรือ อีกลำส่วนใหญ่จะเป็นปลาหมึก กับปลาทูสด และก็ กุ้ง เดาใจมันยากนะ ปลาจะชอบกิอะไรกันวะ ตัวผมเองนั้น ผูกตราเบ็ดยังไม่เป็นเลยดิ 555 แต่ชอบตกปลา หมัดนิ ก็เหมือนกัน ไปถึง ต่างคนต่างแยกย้ายกันตก มุมใครมุมมันน่ะ ผมใช้เหยื่อหมึก นะ ก็ ok ปลากินดีใช้ได้ ส่วนใหญ่จะเป็น ปลาเก๋า ซะมากกว่า ก็เปลี่ยนที่ไปมา นั่นหละ โขดหิที่ผมไปตกใกล้ๆ ก็มีเรือลำอื่นมาตกเหมือนกันบางคนก้มากปลาสากกันก็มี ลากปลาโมงก็มี เราตก อยู่ดีๆ ก็มีเสียงดัง ตู้มมมม... หันหลังไปดู เห็นเลยอ่ะ ปลากระเบนนก ตัวเอ้บเลย ใหญ่นะ ใหญ่กว่าที่ ไอ้เฟามันถ่ายรูปอีก มันโดดขึ้นเหนือน้ำ 1 ครั้งแล้วก็จากไป เราถ่ายรุปไม่ทัน เสียใจอ่ะ .... ปลาก็กินไปกินมา สักพักก็หยิบกล้องส่องทางไกล ยี่ห้อ บรูซเนล มาส่องดูความเป้นไปของเรืออีกลำดูว่ามันเป็นไงกันมั่ง ก็มองเห้นไกลๆๆ ไม่หรอกมีไรเกิดขึ้นที่นั่น สัก ไต๋หลงก็บอกให้หันไปดู ข้างๆเรือ ทุกคนในเรือก็ได้ยินเสียง ปุดๆๆ ปุดๆ คนที่นั่นเขาเรียกน้ำเดือด แต่ จริงๆไม่ใช่เสียงเดือดของน้ำ แต่แท้จริงนั้นเป้นรเสียงของฝูงปลามง เยอะมาก ขึ้นน้างๆเรือเลย เห็นตัวด้วย ว่ายผ่านไปมา หลง บอกว่า มันมากินปลาแถวนี้ เราก็เหวี่ยงเบ็ดไป ไม่กินเบ็ดว่ะ แล้ว มันไรวะ รุกเลย เอาเหยื่อปลอม ขาวแดง น่ะ เหวี่ยงไป มันก็วิ่งตามมานะ แต่ไม่กิน สงสัยมาดมมั้ง มันขึ้นอย่างนั้นน่ะเป้น 10 นาที เดี๋ยวไปเดี่ยวมา ได้แต่ดูมัน ไร้ปัญญาที่จะเอามันไปได้ หลง บอกคงต้องใช้หมึกเป็นลอยน้ำถึงจะกิน มั้ง แน่ะ มีมั้งด้วยนะ ส่วนตัวผม อยากจะเอาแหไปเหวี่ยงสักที ...... แต่ที่เราตกกันก็ได้ปลาพอสมควร พอปลากินดีดี ตัวใหญ่ๆขึ้นก็เกิดปัญหา จนได้ เหยื่อน่ะซิ หมด หมดทุกอย่างเลย อ่อ ขอคุยหน่อยนะ ผมใช้เหยื่อหมึกอันเดียว ตกปลา ด้ 6 ตัวแน่ะ ไต๋หลง ยังทึ่ง 555
      
      หลังจากเหยื่อหมดเราก็ เบนหัวเรือ ไปเจอกับพวก อีก ลำ นึง ที่เกาะค้างคาว ไปถึงก็เจอพรรคพวก จอดเรื และก็นั่งกินข้าวกันอยู่ใต้ต้นไม้ที่เกาะค้างคาว ผมเคยมาที่นี่เมื่อสัก 5 ปีที่แล้ว หาดทรายยังขาวเหมือนเดิม ขาวมากเลย นุ่มเท้าเวลาเดิน ปะการังก็เยอะใช้ได้ มีพวก ปะการังเขากวางจะเยอะ และปะการังหวัสมองด้วย ปลาเนโม่ก็มีนะ วันที่ไปวนนี้เป็นหยุด คนก็มากันหลายกลุ่มพอสมควร เมื่อเจอกับเพื่อนบนเกาะ ก้ถามได้ปลาไรกันมา เขาว่า เขาได้ปลามงมา 3 ตัว อย่างอื่นก็ปลาเล็กๆ เปรียบกัน 2 ลำ ปลาวันนี้เราสูสีกันนะ ผมว่า ไม่มี ใครเด่นกว่ากัน จากนั้น เมื่อกินข้าวเสร็จก็เริ่มเล่นน้ำกันหละ น้ำใสมากเลย หาดทรายขาว ขาดอย่างเดียว สาวๆ ไม่มี ไม่รู้ไปไหนหมด สงสัยกลัวตัวดำ แต่ผมซฺ ดำไม่กลัว ต่างต่างว่ายน้ำกันไป แต่ ไอ้ มี่นี่ดิ มันถ่ายรูปอย่างเดียว ถ่ายเยอะมาก กว่าจะเล่นน้ำได้ก พวกที่เหลือก็แย่แล้ว อ่อ วันนั้น ริก เพื่อนที่มาก่อนผม 1 วันก็ไปด้วย มันมีกล้องถ่ายใต้น้ำได้ ถ่ายกันแหลก ช้อตเด็ดก็คือ ดำไปใต้น้ำถ่ายรูปคู่กับปลาการ์ตูน ผมว่ามันเหนื่อยมากนะ ผมดำน้ำไปมากกว่า 10 รอบ ภาพที่ถ่ายอกมา ไม่มีผมกับปลาการ์ตูนเลย มี รุก กับริก นั่นหละ ที่ติดกับปลาการ์ตูน ฮืออ เล่น บาดเจ็บขจากโดนปะการังไปบ้าง เล่นน้ำเสร็จ ก็ มาถ่ายรูปกันที่หาดทราย สวยจริงๆที่นี่ แต่ ที่นี่ไม่มีคนมาค้างนะเกาะนี้ คนเรือ บอกว่าผีดุ แต่ผมว่านะผีดุไม่กัด แต่หลอกกกก คิคิ

      
      
          หลังจากกลับถึงบ้านพักที่แหลมนาวก็ใกล้เย็นพอดี ก็อาบน้ำ แล้วก้นั่งคุยกัน คนที่นั่นเขาก็เอาข้าวมาให้กิน ก็กินข้าวแบบที่เขากินกันนั่นหละ แต่บางอย่างมันก็ดูแปลกๆ แต่กินได้ พอยกอาหารมา ก็ถามเขาว่านี่อะไรน่ะ เขาบอกว่า เบน เบน? หลายคนง อ่อปลากระเบนตัวเมื่อเช้าน่ะ อืออ ไอ้เบนนก ตอนนี้กลายไปอยู่ใรจานแล้ว เนื้อก้นะ ไม่รู้เรียกว่าอร่อยไหม มันก็แปลกๆดี มีตรงมนๆๆ ด้วยผว่า สงสัยเป็นช่วงปีกมั้ง ก็กินกันไป แต่ที่เด็ด ก้คือ กุ้งมังกร เขาเอากุ้งมังกร มาให้เรากิน อิอิ ต้มยำกุ้งน่ะ อรอ่ยดี หลายคนคงคิดว่ากุ้งมังกรนั้นหายาก แต่เราว่าที่นี่หาง่ายมีให้กินเรื่อยๆ คนที่นี่ผมว่าเขาไม่สนในใจเรื่องราคาเท่าหรือว่าความหายกของกุ้งมังกรเท่าไหร่ มั้ง เปรียบบ้านเราผมว่าเหมือนไปไปซื้อข้าวแล้ว สั่งกระเผาไก่ สักจานมากิน สักจานมากว่า แบบว่า กุ้งมังกรมันหาง่ายน่ะ หลังจากินข้าวเสร็จ ก็ได้เวลา น้ำขึ้น เป้าหมายคือ หัวสะพานที่นั่นตกปลาได้สะพานเขายื่นไปในทะเลตั้งเยอะ ก็ รวมตัวกันไป ตกปลา ผมก็ตกด้วยๆ แต่ตรงนั้น หินเยอะ ติดบ่อย บ่อยจนน่ารำคาญเลยหละ สตกไปสักพักปลาก็กินเบ็ดเราจนได้ มัน มีน้ำหนักสงสัยจะปลาใหญ่ พอเอาเบ็ดขึ้นมา มันเป็นก้อนกลมๆ ตัวไๆรวะ สักพักมันดีด ตัวเอง ปึ๋งเลย และกลายเป็นเส้นตรง พุ่งเข้าหาวงพรรคพวกที่นั่งอยู่บนหัวสะพาน ฉิบหาย .... มันพุ่งไปตรงไอ้รุก ไอ้รุก เบี่ยงตัวหลบเอารองเท้าตีไป ที และโดกันทั้งวง อ่ะนั่น มันไม่ใช่ปลาแล้ว มันเป็นงูแน่ๆ เบ็ดติดปากเลยนะนั่น ตกใจกันหมด สุดท้ายเลยตัดสายเบ็ดและปล่อยมันไป ไอ้รุกมันบ่นใหญ่ บอกมึงโยนงูมาทำไมตรงนี้ อ้าว กูจะไปรู้เหรอวะมันเป็นงูนึกว่าปลาแป่ว เสียขวัญเลยกู จากนั้นก็ให้ไอ้ฟีนผูกเบ็ดให้ใหม่ ตกไปอีกที สักพักปลาก็กินอีก อือ น้ำหนักดี สงสัย ตัวใหญ่ พอเอาเบ็ดขึ้นมา งูอีกแล้ ชนิดเดิม แต่ตัวนี้ซวยหน่อย เอาขึ้นมาแล้วดันไปติดกับอวนที่เขาวางอยู่แถวนั้น เลย พันกันมั่วไปหมด ผมเลิกตกเลย ตกไรวะได้งู 2 ครั้งติด ไม่เอาแล้ว สักพักคนที่นั่นก็เดินมาที่หัวสะพานเขาถามได้ปลาไรกันได้ยินเสียงไปถึงบนฝั่งก็เลยบอกได้งู พอเขามาดู เขาบอกไม่ใช่งู แต่เป็นปลา ชื่อปลาหลงหม้อ ใครโดนกัดไปแล้ว ต้องรักษากันนาน ถ้าหาหมอปัจจุบัน ก็ 1 ปี หาย แต่ถ้ารักษา หมอชาวบ้านก็ สักครึ่งเดือน เท่านั่นหละ ทุกคนอึ่ง้ลยเมื่อกี้โดนกัดทำไงล่ะเนี่ย จากนั้น ก็แยกย้ายไปนอน เพราะลมหมด น้ำทะเลไม่เดินปลาไม่กินเบ็ด... ไปนอนดีกว่า
          เช้าวันต่อมา กิจกรรมเรามีทุกวัน วันนี้หลังจากปรึกษากันแล้ว ก็เราจะออกไปตกปลาอีกครั้ง นึง แบ่งเป้น ทีมไปลุยคราวนี้ จะทำให้ดีกว่าเมื่อวานไปตกหมายเดิม แต่คราวนี้ผมไป ตกที่ข้างเกาะค้างคาวที่เมื่อวาน ได้ ปลากระมงมา นั่งตกตั้งนาน นานมาก ได้แต่ปลาน้อย ไม่ไหว วันนี้นั่งเรือ ของ เส็ง ตกจนเบื่อ เส็งบอกวันนี้น้ำไม่ไหล ลมไม่ค่อยดี อือ ก็จริงอย่างที่เขาว่านั่นหละ สักกัก มีเรือตกปลาวิ่งผ่านมาลำนึง มีคนตก 3 คน พวกนี้ มันใช้วิธี ขับเรือช้าๆ วิ่งนรอบกองหิน หรือวิ่งรอบเกาะ และขว้งเบ็ดลากปลา เหยื่อที่ใช้ เขาใช่เหยื่อปลอม เขาขยันขว้างเหยื่อปลอมกันมาก เหมือนเครื่องจักรเลย เรือวิ่งผ่านลำผมไปรอบ สักพักมันก็วิ่งผ่านมาอีก ผมเลยถามได้ปลาไหม เขาตอบว่า ไอ่ซิ ปลามง เกือบ 20 ตัวแล้ว ขนาด 1-2 โล อืออ ันใช้ได้เลยนะ ขขนาดเท่าที่เพื่อนตกได้เมื่อวานแล้วเรือมันก็วิ่งไป ผมก็ไม่ไหวกันแล้ว เรืออีกลำก็วิ่งไปที่หน้าหาดเกาะค้างคาว พอไปสมทบกัน ก็ถามมันก็ไม่ได้เหมือนกัน วันนี้ ทำไมมัน เป็นอย่างนี้วะ ตกปลาปลาไม่กินเบ็ดเฮ้อออ จากนั้นก็นั่งล้อมวง กินข้าวกันบนเรือนั่นหละ กินไปนั่งคุยไป แดดก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อยกะว่าสักพักจะลงไปเล่นน้ำดูปะการังอีกสักรอบ ทันใดนั้นเอง เสียงก็ดังขึ้น ทุกคนหันไปดู ฟิกมันเข้าไปจับเบ็ดแล้วหวัด อือ ปลาใหญ่ มันว่า ทุกคนต่างมอง สู้กันสักพัก ปลามันลอย บนน้ำเลย ตัวเบ้อเร่มมองจากระยะไกล เท่านั้นหละ ไต๋ หลง โด น้ำโครมเลย ว่ายไหาเจ้าปลา ไปถึงก็ใช้ 2 แขนอันแข็งแกร่ง ล้อกเข้าที่คอ ตีกรรเชียง พาปลามาที่เรือ สุดยอดด ปลาเหี้ยไรวะใหญ่ฉบหาย คนใดในหมู่เรา อุทานขึ้นมา หลังจากเอาปลาขขึ้นมา ไต๋งหลง กับ ไต๋เส็ง ก็บอก ไม่รู้เป้นปลาไร ตัวีขาว คล้ายๆกับกระพงแดง แต่ช่างมันเอาแช่เย็นก่อน เดี๋ยวกลับบ้านไปรู้หลังจากนั้นก็ฉลองกันใหญ่เลย หลังจากนั้นก็เล่นน้ำดูปะการังกันไปเรื่อย พอกลับไปถึงแหลมนาว คนที่นั่นมาดูกันใหญ่ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นปลาอะไร เขาวิเคราะกันว่าน่าจะเป็นปลาลูกครึ่งผสมกันระว่างปลากระพงแดง กับปลาอะไรสักอย่าง อาจมาจากฝั่งพม่าเป็นได้ เพราะตอนเช้าจากสีขาวปลาก็กลายเป็นสีแดง แปลกจัง


         หลังจากนั้นเราก็ทำกิจกรรมแบบปกติ เส็ง กับ หลง ก็อยากให้เรา ขึ้นเขาไปดูสัตว์ในป่า เราก็ว่าจะไปเหมือนกนั แต่ตอนกลางคืนฝนมันตกซะก่อนเลยไม่ไป ก็ได้ ตกปลาริมสะพาน นั่งคุยกันบ้างเรื่อยๆ เช้าวันต่อมาจะกลับบ้านแล้วววเขาก็บอกก่อนกลับเอาปลากลับไปด้วย เดี๋ยวไปลากอวนกัน อือ ลากอวน ก็เหมือนเดิม แบ่งเป็น 2 ลำ ผมไปเรือของเส็ง มี เส็ง กับ ลูกน้อง 1 คน และ ผม หมัด นิ กีมรวมทั้งหมด 5 คน แยกกันไป พอไปถึงก็ลงอวนเลย อวนยาวมาก ผมว่า ยาวสักกิโลเมตรได้ มั้ง ลงเสร็จปั้บก็ถึงคิวลาก อือ เบากว่าลอบหมึก หน่อย ต้องลาก 2 คน เส็งบังคับเรือ ส่วน ลูกน้องเส็งกับ ผม ลาก ลากขึ้นมา หนักนะ ผมว่าผมลากไม่ถึง300 เมตร มั้ง แทบแย่เลยเรียกกีมมา เปลี่ยน เจ็บมือมา มันเทคนิกเหมือนกนันะในการลาก กีมก็ลากไปสักพัก หมัด นิก็มาลาก ต่อ สรุป ลาก 1 ครั้ง ผม 3 คนผลัดกัน แต่ ลูกน้องเส็งเขาคนเดียว เที่ยวแรก ไม่ได้ปลาเลย ได้ ปูมาตัว มั้ง ไม่อยากเชื่อ พอรอบหลังๆ นี่ ชักเริ่มมีปลา เราลากกันอย่างนั้น 10กว่าครั้ง ได้ปลาก็มี ปลากระมง ปลากะลา ปลาทราย และก็อย่างอื่นอีกแต่ไม่มาก 2 ลำที่ไปกันเป้นอย่างนี้ ปลาไม่ต่อยมี ผิดกับเรืออีกลำมาใกล้ๆ เขามาช่วยหา เรือของบังบ่าวคนนี้ เก่งมาก แป้บเดียวเต็มกระชุ แล้ว เขาบลอกว่า เขาทำประมมานาน เขามองเห็นปลาใต้น้ำ อือ ผมวิเคราะห์ดูแล้ว คำว่าเห็นปลาใต้น้ำอาจหมายถึง การดูกระแสน้ำ ทิศทางลม คลื่น อะไรหลายๆอย่างสรุปนั่นคือประสพการณ์ที่เขาได้รับมา แต่เขาเก่งจริงๆ รวทกันก็ด้ปลามาเยอะพอวมควร จากนั้นถึงฝั่งก็แยกกย้ายกันเก็บของเดินทางกล้บบ้านในที่สุด

                                     
                                                สมาชิกพร้อมรัก